เมื่อวันที่ 15 เดือนตุลาคมปีพ. ศ. 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมแม่ค้าคนหนึ่งเธอมีชื่อว่าเจ๊ต้อย โดยเธอนั้นได้มีการใช้อาวุธปืนยิงอดีตสามีที่เลิกรากันไปแล้วพร้อมกับภรรยาใหม่ของอดีตสามี ซึ่งในขณะนี้อดีตสามีของเจ๊ต้อยได้รับบาดเจ็บสาหัสยังอยู่โรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บอยู่ส่วนภรรยาใหม่ของอดีตสามีของเจ๊ต้อยนั้นเสียชีวิตในที่เกิดเหตุโดยเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นที่จังหวัดลำปางในเขตตำบลเวียงเหนือ
และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการจับกุมเจ๊ต้อยเพื่อมาสอบถามถึงสาเหตุของการก่อเหตุในครั้งนี้เธอได้ให้เหตุผลในการก่อเหตุว่าเธอรู้สึกโกรธแค้นสามีของเธอเป็นอย่างมากโดยเธอกับสามีนั้นได้เลิกรากันไปแล้วแต่พวกเธอทั้งคู่นั้นก็มีลูกอยู่ด้วยกันซึ่งลูกของเธอยังคงต้องเรียนหนังสือแต่ตั้งแต่เลิกรากันไปอดีตสามีของเธอไม่เคยส่งเงินมาเลี้ยงดูลูกเลยทำให้เธอเกิดภาวะความเครียดเนื่องจากว่าตนเองต้องหาเงินเลี้ยงลูกอยู่คนเดียว
และในวันเกิดเหตุตนเองบังเอิญว่าเธอไปเจออดีตสามีของเธอซึ่งกำลังอยู่กับภรรยาใหม่และทั้งคู่นั้นดูมีเงินมีทองและรักใคร่กันดีทำให้เธอนั้นรู้สึกไม่พอใจและเกิดอาการน้อยใจที่เห็นอดีตสามีเอาใจพยายามไหนโดยที่เขาไม่หันมาสนใจลูกของเขาเลยทำให้เธอนั้นเกิดบันดาลโทสะและตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงคนทั้งคู่
อย่างไรก็ตามในขณะที่เจ๊ต้อยกำลังให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่นั้นลูกสาวของเจ๊ต้อยก็มานั่งให้กำลังใจอยู่ที่สถานีตำรวจเช่นเดียวกันโดยขณะนี้ลูกสาวของเจ๊ต้อยอายุ 17 ปีแล้วสามารถดูในตนเองได้แล้ว
อย่างไรก็ตามเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นการกระทำของเจ๊ต้อยสร้างความเสียหายให้กับตัวแกไปเองเพราะตัวเจ๊ต้อยเองนั้นขณะนี้อยู่กับลูกเพียงแค่สองคนเท่านั้นเมื่อจะต้อยยิงคนตายเจ๊ต้อยก็จะต้องติดคุกและลูกสาวของเจ๊ต้อยก็จะต้องอยู่คนเดียวไม่มีคนดูแลและไม่มีคนหาเงินส่งให้ลูกของเจ๊ต้อยได้เรียนหนังสือ
ดังนั้นคดีนี้จึงสามารถนำมาเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนที่มีครอบครัวแล้วเลิกรากันไป และหากคนใดคนหนึ่งไปมีครอบครัวใหม่ก็ควรจะต้องทำใจเพราะเราได้ตัดสินใจที่จะเลิกรากับสามีหรือภรรยาไปแล้ว ไม่ควรจะเกิดอาการหึงหวงหรือไม่พอใจและถ้าหากมีปัญหาอะไรควรพูดคุยกันดีๆให้มองย้อนกลับไปข้างหลังว่าเรายังมีห่วงที่ยังต้องดูแลใครอยู่หรือไม่อย่างกรณีเจ๊ต้อยที่เขายังมีลูกสาวที่ต้องคอยดูแลอันนี้ขนาดนี้หากเขาติดคุกไปลูกสาวของเขาก็จะต้องอยู่ตัวคนเดียวไม่มีคนดูแลนั่นเอง
สนับสนุนโดย แทงหวยออนไลน์ไม่มีขั้นต่ำ