เจ้าของอู่ซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ตายปริศนา

       เมื่อวันที่ 10 เดือนกันยายนปีพศ2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจของสถานีตำรวจท่าไม้รวก ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำจังหวัดเพชรบุรีได้รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านว่ามีผู้พบศพชายคนหนึ่งเสียชีวิตภายในบ้านพักของตนเองเมื่อเดินทางไปถึงสถานที่เกิดเหตุนั้นพบว่าบ้านหลังเกิดเหตุนั้นอยู่ห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 500 เมตรและบ้านนั้นอยู่ตรงกลางป่าละเมาะซึ่งห่างไกลจากบ้านหลังอื่นๆอยู่ที่ประมาณ 50 เมตรด้วยกัน

อย่างไรก็ตามร่องรอยการเสียชีวิตของเจ้าของบ้านนั้นพบว่าสภาพศพนั้นน่าทิ่มลงไปในอ่างอาบน้ำแต่เมื่อนำศพขึ้นมากับพบร่องรอยของการถูกทำร้ายร่างกายและเมื่อสำรวจบริเวณบ้านก็พบว่าบริเวณข้างบ้านและตรงบริเวณประตูทางเข้ามาจนถึงบริเวณห้องน้ำนั้นมีร่องรอยของเลือดและรอยลากทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อได้ว่าส่งของชายดังกล่าวนั้นไม่ได้เสียชีวิตเอง

แต่น่าจะถูกทำร้ายร่างกาย  โดยสรุปดังกล่าวนั้นเป็นศพของเจ้าของบ้านที่ชื่อนายภควัตมีอาชีพเป็นช่างซ่อมจักรยานรถยนต์  โดยคนที่พบศพคนแรกนั้นเป็นภรรยาของนายภควัตเอง

   ซึ่งทางด้านภรรยาของนายภควัตนั้น  ได้ให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเธอและสามีของเธอนั้นจะนอนอยู่กันบ้านคนละหลังเนื่องจากสามีของเธอนั้นต้องทำการเปิดอู่ซ่อมรถแต่เช้าทุกวันซึ่งบ้านหลังที่สามีของเธออยู่นั้นจึงมีการเลี้ยงสัตว์เอาไว้และสามีเธอต้องอยู่เฝ้าสัตว์แต่ในทุกๆวันสามีจะต้องมีการซื้ออาหารไปไว้ให้เธอทานดังนั้นวันที่เกิดเหตุนั้นเธอเห็นว่าสายแล้ว

แต่สามียังไม่หาอะไรมาให้กินเธอจึงได้ไปดูสามีที่บ้านเพราะคิดว่าอาจจะป่วยได้แต่เมื่อไปถึงพบว่ามีการล็อคและตะโกนเรียกเท่าไหร่ก็ไม่มีคนมาเปิดแต่ผิดสังเกตตรงที่เห็นคราบเลือดครบรอบบ้านและที่สำคัญรถมอเตอร์ไซค์ของผู้เสียชีวิตก็ยังจอดอยู่หน้าบ้านเธอจึงได้ไปหาเพื่อนบ้านเพื่อให้มาช่วยกันงัดประตูทางเข้าบ้านเมื่อเข้าไปหาภายในบ้านก็ไม่พบสามีของตนเองตอนแรกคิดว่าสามีนั้นน่าจะออกไปข้างนอกพอดีตาของเธอนั้นเหลือบไปเห็นว่าห้องน้ำยังไม่มีการปิดไฟเธอจึงเดินไปในห้องน้ำหวังจะปิดไฟแต่เมื่อเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปก็พบร่างสามีของเธอนั้นนอนเสียชีวิตอยู่ภายในอ่างอาบน้ำแล้วดังนั้นเธอจึงได้ประสานงานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ

  ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นได้มีการสอบพยานหลักฐานไปหลายปากแล้วทั้งตัวภรรยาของผู้เสียชีวิตเองและเพื่อนบ้านซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งหาสาเหตุและผู้ร้ายที่กระทำการอุกอาจในครั้งนี้อยู่แต่ต้องนำตัวมาลงโทษได้อย่างแน่นอน

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย    สมัครเว็บหวยฮานอย

เสี่ยรถเบนซ์ ขับรถชนตำรวจจ่ายเงินเยียวยา ผู้เสียหาย 45 ล้านบาท

        จากกรณีที่เสี่ยขับรถเบนซ์คนหนึ่งไปงานเลี้ยงสังสรรค์และกินเหล้าออกมาขับรถแล้วเกิดอุบัติเหตุชนคู่กรณีเป็นชายหญิงคู่หนึ่งเสียชีวิตซึ่งต่อมาทราบว่าคู่กรณีนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและที่สำคัญทั้งคู่มีลูกสาวอยู่ด้วยกัน 1 คนและหลังจากที่เกิดเหตุนั้นเสี่ยขับรถเบนซ์ก็ได้ดูรายเดียวยาลูกสาวของคู่กรณีอย่างดีมาเสมอโดยจ่ายค่าเสียหายให้กับลูกสาวของผู้ที่เสียชีวิตไปทั้งหมด 45 ล้านบาทอีกทั้งยังสำนึกผิดด้วยการไปบวชให้กับผู้เสียชีวิตอีกด้วย

ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นหลายคนรู้สึกว่าเสี่ยรถเบนซ์หรือนายสมชายได้รู้สึกผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆอย่างไรก็ตามมีข่าวออกมาหลังจากนั้นว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการส่งเรื่องดำเนินคดีกับชายที่ขับรถเบนซ์อยากทราบมาภายหลังอีกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นส่งเรื่องขอให้ศาลดำเนินคดีต่อนายสมชายที่ขับรถเบนซ์ทันที

โดยไม่ต้องรอลงอาญาทำให้ประชาชนที่ทราบข่าวนี้ต่างก็รู้สึกไม่พอใจโดยนำเหตุการณ์ของเสี่ยขับรถเบนซ์ชนคนเสียชีวิตแล้วออกมารับผิดชอบไปเปรียบเทียบกับกรณีของทายาทตระกูล เรดบลู นั่นก็คือ นายบอส   อยู่วิทยา  ที่เขาได้ขับรถชนเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตแต่ไม่ออกมายอมรับอีกทั้งยังสั่งให้ลูกน้องเป็นคนออกมายอมรับว่าเป็นคนขับรถชนเองแต่จำนวนด้วยหลักฐานจากกล้องวงจรปิดแต่อย่างไรก็ตามด้วยการต่อสู้มาอย่างยาวนานที่สุดแล้ว นาย บอส อยู่วิทยาก็รอดจากคดีการขับรถชนคนเสียชีวิตทำให้คนในสังคมต่างก็รู้สึกไม่พอใจต่อการคำสั่งตัดสินของศาลและการดำเนินคดีของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงดำทั้ง 2 คดีนั้น

มาเปรียบเทียบกันจนเป็นข่าวโด่งดังใหญ่โตทุกหน้าหนังสือพิมพ์จะมีการโจมตีเกี่ยวกับข่าวนี้ทุกวันเป็นระยะเวลาหลายวันแล้วซึ่งทางด้านนายสมชายซึ่งเป็นเสียเจ้าของขับรถเบนซ์ที่เป็นหนึ่งในหัวข้อข่าวนั้นได้ออกมาขอร้องสำนักข่าวทุกสำนักข่าวที่กำลังทำข่าวของตนเองอยู่ทุกวันนี้ว่าด้วยคดีความของเขานั้นได้มีการถูกศาลสั่งให้ตัดสินสิ้นสุดคดีความและได้รับโทษเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เขาไม่ต้องการให้นักข่าวนำข่าวของเขามาโยงเกี่ยวกับคดีล่าสุดของนายบอสเนื่องจากว่าเขาไม่อยากให้เด็กหญิงวัย 12 ปีซึ่งเป็นลูกสาวผู้เสียชีวิตในกรณีอุบัติเหตุที่เขาได้ทำขึ้นมานั้นต้องรับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับการเสียชีวิตของพ่อและแม่ของตนเองอีกแล้วเขาไม่อยากให้เด็กหญิงนั้นต้องมาคิดถึงพ่อกับแม่ซึ่งเขารู้สึกสงสารไม่อยากให้มีปัญหากระทบจิตใจของเด็กน้อยวัย 12 ปีดังนั้นนายสมชายจึงได้ออกมาวิงวอนสื่อให้หยุดเขียนภาพพิมพ์เกี่ยวกับกรณีอุบัติเหตุที่เขาได้ทำขึ้นมานั่นเอง

 

สนับสนุนโดย    แทงหวยออนไลน์ยังไง

พนักงาน Grab Food ไม่สบายขนาดส่งของแต่ไม่ยอมหยุดพัก

         เหตุการณ์ที่น่าชื่นชมในครั้งนี้เกิดขึ้นที่ประเทศสิงคโปร์ซึ่งคนที่มีการโพสต์เรื่องราวนั้นก็คือพลเมืองดีนั่นเองโดยสาเหตุที่พลเมืองดีคนดังกล่าวนั้นต้องออกมาพูดถึงเรื่องการช่วยเหลือพนักงาน Grab Food ในครั้งนี้เนื่องจากว่าเขาต้องการให้คนที่ได้รับข้อมูลข่าวสารในครั้งนี้เห็นใจอาชีพพนักงาน Grab Food

ซึ่งบางครั้งพวกเขาอาจจะมีการส่งของล่าช้าแต่ก็อยากให้ทุกคนเข้าใจว่าพนักงานอาจจะติดธุระหรือมีเหตุจำเป็นจริงๆจึงทำให้ส่งของล่าช้าดังนั้นอย่าให้ผู้คนเข้าใจและไม่ต้องต่อว่าพนักงานหากวันไหนที่มีการสั่งอาหารแล้วได้รับของล่าช้านั่นเองโดยเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่ชายหนุ่มนามว่า  เควิน  กำลังขับรถเพื่อจะเดินทางกลับบ้านซึ่งในขณะที่รถติดไฟแดงอยู่นั้นเขาสังเกตเห็นว่ามีรถมอเตอร์ไซค์ซึ่งใส่เสื้อของ Grab Food จอดอยู่บริเวณด้านหน้ารถยนต์ของเขา

โดยลักษณะของชายหนุ่มที่ขับรถมอเตอร์ไซค์ Grab Food นั้นมีลักษณะโค้งตัวไปข้างหน้าเหมือนกับว่าเขากำลังเป็นอะไรสักอย่างและด้วยความสงสัยและคิดว่าพนักงานขับรถมอเตอร์ไซค์คนดังกล่าวอาจจะต้องการความช่วยเหลือจากเขาเขาจึงได้ลงจากรถลงไปดูจึงทำให้ทราบว่าพนักงานคนดังกล่าวกำลังปวดท้องอย่างหนักเขาจึงได้ช่วยเหลือให้พนักงาน Grab Food คนดังกล่าวเป็นนั่งพักบริเวณด้านข้างฟุตบาท

โดยช่วยเข็นรถมอเตอร์ไซค์ไปให้หลังจากนั้นก็ได้มีการแนะนำให้พนักงาน Grab Food นั้นกลับไปพักผ่อนที่บ้านให้เลิกงานในวันนี้ไปก่อนแต่พนักงานคนดังกล่าวยืนยันว่าเขาจะไม่กลับบ้านเพราะเขายังต้องติดภารกิจในการที่จะไปส่งอาหารอีก 1 ที่ซึ่งเป็นที่สุดท้ายแล้วด้วย Kevin เห็นว่าอาการของพนักงาน Grab Food นั้น

ไม่ค่อยจะสู้ดีนักเลยเขาได้มีการจับตัวละพบว่าพนักงานส่งอาหารนั้นมีอาการตัวเย็นเฉียบและยังหน้าซีดมากอีกด้วยดังนั้นด้วยความสงสารเขาจึงให้พนักงานคนดังกล่าวนั้นกลับไปพักผ่อนที่บ้านโดยเขาพาไปส่งเองถึงที่บ้านส่วนอาหารที่เหลือการส่งอีกที่เดียวนั้นเขารับหน้าที่เป็นผู้ไปส่งสินค้าให้กับพนักงาน Grab Food เอง

ในที่สุดพนักงานฟู้ดก็ยินยอมที่จะกลับไปพักผ่อนหลังจากนั้นเควินก็ได้นำสินค้าไปส่งตามที่รับปากกับพนักงาน Grab Food เอาไว้และเขาก็ได้มีการโพสต์เรื่องราวลง Facebook โดยหวังว่าหากใครที่มีการสั่งอาหารแล้วได้รับของล่าช้าก็ให้เข้าใจพนักงานจะได้ต่อว่าพนักงานมากนักและยังพูดถึงพนักงานที่ส่งอาหารทุกคนว่าให้ดูแลสุขภาพของตนเอง

เป็นอันดับที่ 1 อย่าสนใจในเรื่องของงานมากจนไม่ได้ดูแลตนเองซึ่งเมื่อเรื่องราวของเขาได้เผยแพร่ออกไปคนในโลกออนไลน์ต่างก็ยกย่องการทำความดีของเควินในครั้งนี้กันมากจนเขากลายเป็นคนดังในโลกออนไลน์ไปแล้วในขณะนี้

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    ซื้อหวยออนไลน์ เว็บไหนดี